ตู้แอมป์: ตู้แอมป์

      เมื่อพูดถึงกีต้าร์ไฟฟ้าแล้วสิ่งที่คู่กันและขาดไม่ได้คือ ตู้แอมป์ ภายในของ ตู้แอมป์จะประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่อกันเป็นวงจรเพื่อขยายสัญญาณไฟฟ้าซึ่งเป็นสัญญาณเสียงไปยังลำโพง ซึ่งตู้ตู้แอมป์ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มีด้วยกัน 2 แบบคือ
           แบบที่ 1 Vacuum tube? Amplifier ซึ่งใช้หลอดสูญญากาศในการขยายสัญญาณเสียง
           แบบที่ 2 Solid State Amplifier ซึ่งใช้ทรานซิสเตอร์หรือเฟทและ Op-Amp ในการขยายสัญญาณเสียง
      ซึ่งเสียงที่ได้จาก ตู้แอมป์ ทั้ง 2แบบก้อให้เสียงที่แตกต่างกันด้วยซึ่งขึ้นอยู่กับยี่ห้อ,รุ่นและ สไตล์การเล่นของแต่ละคนที่ต้องการ Sound ที่แตกต่างกัน

ที่มา: cmajor.igetweb

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด   

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th   

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700   

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251  

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699  

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694  

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์:แล้วตู้แอมป์กีต้าร์ตู้แอมป์เบส ClassA ClassB ClassD มันเป็นยังไง? ต่างกันยังไง? (4)

 

ตู้แอมป์ ClassD ก็ถูกบรรดาพวกหูทองวิจารณ์ว่า เป็นเสียงดิจิตอลแข็งกระด้าง ไม่มีความเป็นดนตรีนึกไปถึงตอนที่มีตู้แอมป์โซลิดสเตทใหม่ กว่าจะได้รับการยอมรับก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน และตอนนี้ตู้แอมป์ ClassD ก้คงอยู่ในช่วงการรอเวลาพิสูจน์ตัวเองอย่างนั้นเช่นกัน 

ไหนๆก็พูดถึงตู้แอมป์ ClassD แล้ว ก็อยากจะพูดถึง ภาคจ่ายไฟด้วยเลย ภาคจ่ายไฟคู่บารมีของ ClassD คือภาคจ่ายไฟแบบสวิทชิ่ง ที่ใช้การสร้างกระแสคลื่นความถี่สูงและแปลงกลับมาเป็นไฟ DC เป็นภาคจ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพสูง จ่ายไฟได้มากในขนาดเล็กๆ ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึง Power supply ของคอมพิวเตอร์ ตัวเล็กๆ เบาๆ แต่จ่ายไฟได้หลายร้อยวัตต์ ถ้าเป้นภาคจ่ายไฟแบบลิเนียร์ดั้งเดิม ที่ใช้หม้อแปลงขดลวดทองแดงแปลงกระแส Power supply ของคอมพิวเตอร์จะมีน้ำหนักมากกว่านี้อีกเป็นสิบเท่า... 

แล้วสรุปว่า อะไรดีที่สุด..?
ตอบได้อย่างมันใจในคำถามนี้ ว่า ไม่มี.. ในเด่นมีด้อย ในด้อยมีเด่น ตู้แอมป์แต่ละชนิด แต่ละคลาส มีบุคลิกของตัวเอง ตู้แอมป์แต่ละยี่ห้อ ก็มีบุคลิกของตัวเอง ในท้ายที่สุด แต่ยังจะขอต่ออีกหน่อยนึงนี้ ก็อยากจะบอกว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา ว่าจะชอบ หรือไม่ชอบมากกว่า และความชอบของเราส่วนมาก มักชอบตามค่านิยม ชอบตามศิลปิน ชอบเพราะมันเป็นตำนาน ศิลปินระดับโลกเคยใช้... แต่ถ้าหากคิดใหม่ มาชอบเพราะเสียง เพราะจิตใจเราจริงๆมันจะดีกว่ามั้ย... คิดและสร้างอะไรที่เป็นแบบของเราบ้าง... ซักนิดก็ดี อย่างน้อย เราก็มีตัวตนของเรา ถ้า Van Halen ตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างตาม Jimi Hendrix วันนี้เราคงไม่ได้รู้จักเค้า...ใช่มั้ย?

ที่มา: www.guitarthai.com  

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด  เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th  ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700  โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251  เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699  แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694  อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

 

ตู้แอมป์: แล้วตู้แอมป์กีต้าร์ตู้แอมป์เบส ClassA ClassB ClassD มันเป็นยังไง? ต่างกันยังไง? (3)

   

            

         ClassD ซึ่งอาจเป็นพระเอกแห่งยุคประหยัดพลังงานลดโลกร้อนนี้ เพราะแอมป์ ClassD เป็นแอมป์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก มีการสูญเสียสัญญานในรูปความร้อนน้อยมาก ถ้าออกแบบดี ว่ากันว่า ไม่ถึง 20 % ของพลังงานที่ป้อนเข้าไปทั้งหมด ที่เป็นเช่นนี้เพราะตู้แอมป์ ClassD ไม่ได้ใช้ Power transistor ในภาคเอาท์พุทขยายสัญญาน ตู้แอมป์ ClassD ออกแบบให้ transistor output ทำหน้าที่เป็นสวิทช์เปิดปิดกระแสไฟตามความถี่ของคลื่นเสียงที่ป้อนเข้ามา แลัวใช้ขดลวดกรองความถี่ลดความเป็นดิจิตอลให้กระแสที่ออกมา เพราะการออกแบบการทำงานแบบนี้ ที่ transistor output ไม่ได้ทำหน้าที่ขยายสัญญานโดยตรง ทำให้เกิดความร้อนในภาค output น้อย และประสิทธิภาพ(วัตต์) สูงมากๆ จะเห็นได้จากตู้แอมป์เบส ขนาดจิ๋วๆ ขนาด 300-400 วัตต์ ที่เริ่มมีให้เห็นในตลาดบ้างเราบ้างแล้ว ตู้แอมป์กีต้าร์คลาสดีใส่ถ่านไฟฉาย ก็ขับได้เกือบๆ 10 วัตต์ และจุดเด่นของตู้แอมป์ ClassD ที่น่าสนใจมากอีกอย่างคือ เรื่องระบบเซฟตี้ตัวเองต่างๆ เช่นป้องกันกระแสเกิน ความร้อน การจ่ายกระแส จากการทดลองในหลายๆที่ โดยการช๊อตขั้วลำโพง ตู้แอมป์จะตัดการทำงานทั้งหมด หลังจากรีเซ็ตโดยการปิดและเปิดใหม่ตู้แอมป์ก็กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม แต่ตู้แอมป์ ClassD ก็ถูกบรรดาพวกหูทองวิจารณ์ว่า เป็นเสียงดิจิตอลแข็งกระด้าง ไม่มีความเป็นดนตรีผมนึกไปถึงตอนที่มีตู้แอมป์โซลิดสเตทใหม่ กว่าจะได้รับการยอมรับก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน และตอนนี้ตู้แอมป์ ClassD ก้คงอยู่ในช่วงการรอเวลาพิสูจน์ตัวเองอย่างนั้นเช่นกัน

ที่มา: www.guitarthai.com  

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: แล้วตู้แอมป์กีต้าร์ตู้แอมป์เบส ClassA ClassB ClassD มันเป็นยังไง? ต่างกันยังไง? (2)

ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว

         ClassB ตู้แอมป์คลาสนี้ จะไม่มีการจ่ายกระแสในช่วงรอสัญญาน (Idle)เมื่อมีสัญญานป้อนเข้ามาแล้วจึงมีการจ่ายกระแสให้ตู้แอมป์เริ่มทำงานที่กระแสเป็นศูนย์ ทำให้ตู้แอมป์คลาสนี้ มีความเพี้ยนสูงกว่า ClassA แต่ในความด้อยก็มีข้อได้เปรียบอยู่ เพราะไม่มีการจ่ายกระแสเต็มที่ตลอดเวลา ทำให้การออกแบบตู้แอมป์วัตต์สูงๆได้ ประหยัดอุปกรณ์ ภาคจ่ายไฟขนาดไม่ต้องใหญ่ และราคาถูก
         ClassAB ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า มันเป็นการผสมระหว่า ClassA และ ClassB โดยการออกแบบการทำงานให้มีไฟเลี้ยงในภาคเอาท์พุทในช่วงรอสัญญาน (Idle) ส่วนในภาคต้นที่ใช้พลังงานน้อยกว่า จะหยุดการทำงาน การออกแบบแบบนี้ ให้คุณภาพเสียง ใกล้เคียง ClassA เพราะ ในภาคต้นที่หยุดการทำงานไว้นั้น ไม่ต้องการพลังงานมากนัก ทำให้เมื่อเริ่มทำงาน จะใช้เวลาไม่มากในการประจุให้วงจรทำงานเต็มที่ ทำให้คุณภาพเสียงไม่เสียมากหรือไม่เกิดความเพี้ยนมากนั่นเอง ส่วนในภาคเอาท์พุท ที่ใช้กระแสสูง ก็มีการป้อนกระแสเลี้ยงไว้ ทำให้ไม่ต้องรอ เหมือนตู้แอมป์ ClassA นั่นเอง และด้วยจุดด้อยเล็กๆ และจุดเด่นมากมาย ทำให้ตู้แอมป์ ClassAB มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่างาน PA เครื่องเสียงบ้าน เครื่องเสียงรถยนต์ และในตู้แอมป์กีต้าร์แอมป์เบส คิดว่า ตู้แอมป์เบสและตู้แอมป์กีต้าร์ในโลกนี้กว่า 90% เป็น ClassAB

ที่มา: www.guitarthai.com 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: แล้วตู้แอมป์กีต้าร์ตู้แอมป์เบส ClassA ClassB ClassD มันเป็นยังไง? ต่างกันยังไง?

 

ในช่วงหลังๆ เราเห็นผ่านตากันบ่อยๆ กับตู้แอมป์เบสและตู้แอมป์กีต้าร์ ตัวจิ๋วขนาดหนา 2 นิ้ว และหน้ากว้างคืบกว่าๆ แต่บอกว่า วัตต์ 3-400 วัตต์ เป็นไปได้แน่นอน และเป็นไปแล้วจริงๆ เพราะเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง มาว่ากันถึงตู้แอมป์คลาสต่างๆดีกว่า เดี๋ยวจะได้เข้าใจว่า ทำไมตู้แอมป์ตัวจิ๋วถึงมีกำลังขับหลายร้อยวัตต์ได้ ClassA เค้าว่ากันว่า นี่คือยอดตู้แอมป์ที่ให้เสียงดีที่สุด จริงมั้ย... จริง! แต่ในความสุดยอดนั้นก็มีจุดด้อยมากมายเช่นกัน อธิบายง่ายๆเลยดีกว่า ตัดศัพท์เทคนิคออกไป วงจรขยายแบบ ClassA นั้น จะมีการป้อนไฟเลี้ยงวงจรแบบเต็มที่ตลอดเวลา เมื่อมีสัญญานเข้ามาทำให้ตู้แอมป์ตอบสนองได้ทันที ทำงาน 100% ได้ทันที ไม่ต้องรอการจ่ายพลังงาน ทำให้ไม่เกิดความเพี้ยนในช่วงต้นของสัญญาน เสียงเลยดีความเพี้ยนน้อย ชัดใส ...แต่เพราะต้องป้อนไฟเลี้ยงตลอดเวลาแม้ในช่วงที่ไม่มีสัญญานเข้า ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานสูง ใช้ภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่วัตต์สูง แต่ประสิทธิภาพต่ำ คือได้วัตต์น้อยนั่นเอง หรือถ้าจะทำให้วัตต์มากๆขนาดก็จะใหญ่โต ถ้าเป็นตู้แอมป์หลอด ก็ต้องเอาหลอดขนานกันหลายคู่ ทำให้ราคาตู้แอมป์ แอมป์ ClassA ราคาจะสูงกว่า ตู้แอมป์คลาสอื่นมาก และหากเป็นตู้แอมป์หลอด ClassA ว่ากันว่าอายุการใช้งานของหลอดจะสั้นกว่าตู้แอมป์คลาสอื่นๆ หลายสิบเปอร์เซ็น เพราะหลอดต้องทำงานตลอดเวลาที่เปิดเครื่อง

ที่มา: www.guitarthai.com 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: กำลังวัตต์ตู้แอมป์เท่าไหร่ถึงจะพอ?

 

คำถามนี้ก็ตอบยากอีกเหมือนกันครับ เพราะมันประกอบด้วยส่วนประกอบหลายอย่าง อย่างความไวของ
ตู้แอมป์ 
 
Cabinet กรณีใช้กับหัวตู้แอมป์ ตู้ลำโพงตู้แรกมีความไว 90db/วัตต์/1เมตร จะให้ดังเท่ากับตู้ที่สองที่มี

ความไว 93/db/วัตต์/1เมตร จะต้องป้อนกำลังขับมากกว่ากัน 2 เท่า คือตู้แรกป้อน 100 วัตต์ และตู้ที่สอง

ป้อน 50 วัตต์จะดังเท่ากัน คือ หรือ กำลังขับที่ต่างกัน 1 เท่าตัว คุณจะได้พลังของเสียงที่ออกจากลำโพงเพิ่ม

ขึ้นประมาณ 3 db

คิดยาก เรื่องมาก วกวน เวียนหัว... การใช้งานจริงไม่ต้องคิดขนาดนี้เลย... ใช่มั้ย... เอาเป็นว่า คิดถึงลำโพงที่มี

ความไวกลางๆ ครับ สัก 90db/วัตต์/1เมตร นั่นแหละ ตู้แอมป์ ใช้ในห้องซ้อม ควรใช้ซัก 15 วัตต์ขึ้นไป แต่ถ้า

จะให้ดี ซัก 30 วัตต์ - 60 วัตต์ ดอก 10-12 หรือ 12x2 กำลังแจ๋ว เผื่อไว้สู้กับเสียงกลอง ตู้แอมป์เบสซัก 60-

120 วัตต์ ดอกลำโพง 12-15 นิ้ว เพราะตู้แอมป์เบสต้องใช้กำลังขับมากกว่าในการขับความถี่ต่ำๆ

 

ที่มา: www.guitarthai.com 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: ตู้แอมป์กีต้าร์โซลิดสเตทเสียงนวลๆหนาๆแบบแอมป์หลอดมีมั้ย?

มีแน่นอน อย่างตู้แอมป์ Polytone ของนาย Tommy Gumina ที่มือกีต้าร์แจ๊สทั่วโลกต่างยกนิ้วให้ และต้องเคยมีหรือเคยใช้กันแทบทุกคน การจะผลิตตู้แอมป์โซลิดสเตทให้มีเสียงแบบตู้แอมป์หลอด อาจจะต้องใช้ การออกแบบที่ต่างจากเครื่องขยายเสียงทั่วไป เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครทำ เพราะคงใช้เทคนิคการออกแบบและความพิถีพิถันมาก ในการที่จะออกแบบให้โน้มน้าวสไตล์เสียงที่คมชัดของโซลิดสเตทให้มีความเป็นหลอด ที่อบอุ่นนุ่มนวล เหมือนการทำอาหารเจที่นำถั่วแป้งและผัก ให้คล้ายเนื้อสัตว์นั่นแหละ ที่ต้องใช้กรรมวิธีที่มาก และละเอียดพิถีพิถันขึ้น

ที่มา: www.guitarthai.com 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: การเลือก Gutar&Bass Amplifier (1)

          เมื่อเราได้กีต้าร์ชั้นยอดและเบสชั้นเยี่ยมแล้ว สิ่งต่อไปที่จะลืมไม่ได้คือ ตู้แอมป์กีต้าร์ หรือ ตู้แอมป์เบส และคำถามที่ตามมา คือ จะเลือกยังไงดี? รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี? เสียงเป็นยังไง?
tube or solid state ? แอมป์หลอดหรือโซลิดสเตท ดีล่ะ?

           ผมเชื่อว่าคำถามนี้ต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เมื่อมือกีต้าร์ หรือ มือเบส ต้องตัดสินใจเลือกตู้แอมป์ Guitar & Bass ซักตัวนึง แต่ผมก็เชื่อว่านักดนตรีน้อยคนที่จะเข้าใจถึงความแตกต่างของ ตู้แอมป์ 2 ชนิดนี้จริงๆในยุคที่เกิดดนตรี blues และ rock ที่ถือว่าเป็นรากเหง้าของดนตรีตามสมัยนิยมปัจจุบัน ยุคนั้นยังเป็นยุคของเครื่องเสียงแบบหลอดสุญญากาศอยู่ การบันทึกเสียงต่างๆยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้หลอด วงดนตรีระดับตำนานทุกวงต้องใช้แอมป์หลอด ก็เพราะมันไม่มีตู้แอมป์โซลิดเสตทให้ใช้นะสิ เสียงโซโล่กีต้าร์ระดับตำนานก็แอมป์หลอด มือกีต้าร์ในดวงใจก็ใช้แอมป์หลอด แอมป์หลอดมันก็ต้องดีแน่นอนสิ...
ไม่เถียงครับ แต่เดี๋ยวก่อน...

แล้วแอมป์โซลิดสเตทล่ะมีอะไรดี ผมว่าคำถามนี้ที่ทำให้ลำบากใจเมื่อจะตอบมากๆ ถ้าผมบอกว่าดีกว่าทุกอย่างล่ะ.?

         ใครจะยอมรับว่าจริงบ้าง หากมองในเรื่องประสิทธิภาพต่อพลังงานที่ป้อนเข้าไป แอมป์โซลิดสเตทกินขาดเสียงก็สด กระฉับกระเฉงกว่า ความยากในการผลิตก็ง่ายกว่า ขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาถูกกว่า เพราะไม่ต้องใช้ เอาท์พุททรานฟอร์เมอร์ ที่พันด้วยลวดทองแดงราคาแพง หนักหลายกิโล การทำให้วัตต์สูงๆก็ลำบาก หรือถ้าทำได้ ก็ราคาสูงมาก... แล้วเสียงล่ะ...หากมองในเชิงเทคนิค แอมป์โซลิดสเตท เป็นแอมป์ที่ให้ความเพี้ยนน้อยกว่าแอมป์หลอดมาก... แต่ความเพี้ยนที่น้อย มันกลับไม่ใช่สิ่งที่ มือเบสหรือมือกีต้าร์ทั้งหลายต้องการ... ความเพี้ยนในแอมป์หลอด คือ สเน่ห์ของมัน เสียงที่อู้นวล อ้วนหนา คือสเน่ห์อมตะของแอมป์หลอด ส่วนความเที่ยงตรงของแอมป์ซลิดสเตท กลับกลายเป็นความจัดจ้าน ขาดความนุ่มนวล ความเป็นดนตรี.... โลกหนอโลก... อะไรกันนี่.... เอ้า... ดูกันต่อครับ..
          โซลิดสเตทยุคแรกคือไบโพล่าร์ทรานซิสเตอร์ ยังไม่สามารถเติบโตในตลาดของแอมป์ดนตรีได้เท่าไหร่นัก ยุคต่อมาของโซลิดสเตท คือ FET และ IC (วงจรรวม) ซึ่งก็มีจุดเด่นที่ต่างไปจากโซลิดสเตทแบบไบโพล่าทรานซิสเตอร์อีก ผลิตง่ายขึ้นไปอีก.. ยุคนี้เกิดเอฟเฟ็ค มากมายจากความเล็กและง่ายของ IC ในการนำมาสร้างวงจรไฟฟ้าต่างๆ แล้วอะไรล่ะที่ดีกว่าเมื่อถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น ก็สรุปให้เลยว่า ดีทั้ง 2 อย่างแหละ แต่มันดีคนละอย่าง ก็เลยมีคนหัวแหลมหรือหัวใส จับ ทั้งหลอดและโซลิดสเตทมัดรวมกันซะ ให้ทั้ง 2 อย่างเสริมจุดเด่นจุดด้อยซึ่งกันและกัน... ผมกำลังจะพูดถึงตู้แอมป์กีต้าร์หรือตู้แอมป์บส แบบ ไฮบริด (hybrid guitar amplifier) ที่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่าแบบหลอดสูญญากาศกับเทคโนโลยีใหม่(กว่า)ของโซลิดสเตทเข้าด้วยกัน HUGHES&KETTNER คือตัวอย่างหนึ่งที่ประสบความสำเร็จกับแอมป์แบบไฮบริด อาจเพราะการเข้ามาแบบถูกที่ถูกเวลาในยุคของดนตรีเมทัลเฟื่องฟู ด้วยเสียงที่สดกระชับของโซลิดสเตท แต่ยังคงเนื้อเสียงที่หนานวล และ Distortion แบบแอมป์หลอด อีกรายที่ค่อนข้างเด่นคือ Randall ที่เติมความหลากหลายของลูกเล่นในภาคปรีแอมป์ด้วยโซลิดสเตทแต่คงความคลาสสิคแบบหลอดในภาคเพาเวอร์ 

 ที่มา www.guitarthai.com

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่

บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: ตู้แอมป์เบส

 

คุณจำเป็นจะต้องมีเครื่องขยายเสียงกีตาร์เบสหรือเรียกง่ายๆว่าตู้แอมป์เบส ซึ่งควรจะเป็นชนิดที่ใช้สำหรับกีตาร์เบสโดยเฉพาะ   ในขั้นเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องใช้ตู้แอมป์ตัวใหญ่   คุณอาจซื้อตู้แอมป์เบสเล็กๆและไม่แพงไว้หัดก็ได้  ลักษณะของตู้แอมป์เบสที่ดีก็คือ

        1.  ให้เสียงดังได้มากตามต้องการ  โดยไม่มีพร่าเพี้ยนหรือกระพือเวลาเล่นดังๆ

        2.  ให้เสียงทุ้มแหลมที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ  ตู้ลำโพงควรจะเป็นตู้ที่ปิดด้านหลังเพื่อให้เสียงอัดแน่น

        3.  ตอบสนองเสียงเบสได้เท่าๆกันทุกความถี่สำหรับมือสมัครเล่นขอแนะนำให้ใช้ตู้แอมป์  ชนิดที่มีลำโพงและตู้แอมป์รวมอยู่ในตู้เดียวกัน (ที่เรียกว่าตู้แอมป์แบบ"คอมโบ")  เพราะมีขนาดเล็กและราคาย่อมเยา (แม้ว่าจะให้เสียงสู้ตู้แอมป์แบบที่แยกตู้ไม่ได้)

ที่มาเว็บไซต์ rayongwit

 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่

บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: Amplifer(ตู้แอมป์กีต้าร์1)

Amplifier (ตู้แอมป์) หมาย ถึง เรื่องของภาคขยายให้สัญญาณแรงขึ้นให้เพียงพอที่จะขับเสียงของลำโพงได้ การขายสัญญาณจะแบ่งเป็นสองช่วงคือ การขยายสัญญาณอ่อน เรียกว่า Pre-Amplifier ส่วนนี้จะขยายสัญญาณให้แรงขึ้นมาระดับหนึ่งก่อนที่จะป้อนเข้าภาคขยายตัวจริง คือเพาเวอร์แอมป์ และเมื่อในสองส่วนนี้มารวมกันในตัวเดียวกันเราเรียกว่า Integrated – Amplifier

ขนาดของตู้แอมป์กีต้าร์
คือ ตู้แอมป์ที่ออกแบบมาสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีขนาด 2-3 ขนาดแล้วแต่การนำไปใช้งาน ความต่างในแต่ละขนาดคือ ความดัง ก็จะมีกำลังวัตต์ขยาย ต่างกัน และขนาดจำนวนของลำโพง ขอแบ่งตู้แอมป์กีตาร์เป็น 4 ขนาด คือ ใหญ่ กลาง เล็ก จิ๋ว

1-ใหญ่ คือ ดังสนั่น ! 100 วัตต์ขึ้นไป หัวแยก ต่อกับตู้ลำโพง 12" จำนวน 2-4 ดอก ใช้เล่นบนเวทีกลางแจ้ง หรือเวทีใหญ่ๆ ต้องการดังมากก็ใช้หลายๆชุดพ่วงกัน

2-กลางๆ คือ ไม่ดังมาก ขนาด 50-100 วัตต์ ลำโพง 10-12 นิ้ว ติด 1-2 ตัว ต่อตู้ ใช้เล่นที่เล็กลง อย่างร้านอาหาร ผับที่ไม่ใหญ่มาก

3-เล็ก คือ ขนาดเล็ก หิ้วไปมาได้สะดวก! ลำโพงก็ 5-10 นิ้ว กำลังแอมป์วัตต์ก็ 5-15 วัตต์ เหมาะสำหรับเป็นตู้แอมป์ซ้อม ที่บ้านหรือห้องนอน

4-จิ๋ว คือ ตู้แอมป์หูฟังทั้งหลาย ใช้เล่นซ้อม โดยไม่มีเสียงรบกวนคนอื่น หรือดัง แต่แบบเหน็บเอว...

ขนาดระดับใหญ่-กลาง มักจะใช้ปนๆกันอยู่ คือ บางทีเวทีใหญ่นักดนตรีใช้ตู้แอมป์กลางๆ ก็มี อยู่ที่นักดนตรีเล่นดังมั้ย ตู้แอมป์ที่วัตต์มากหากไม่ต้องการดัง ก็เปิดน้อยๆหน่อยก็ได้
 
ตู้แอมป์กีตาร์ที่ดีควรมี?
หากมือกีตาร์ไม่มี Effect ใช้เลย ตู้แอมป์กีตาร์ที่ดีก็คือต้องให้ครบทุกอย่าง แต่หากมือกีตาร์มี Effect เป็นแผงอยู่ตรงพื้นล่ะก็ ตู้แอมป์ chanel เดียวก็เพียงพอ แต่ตู้แอมป์กีตาร์ที่ผลิตมาขายไม่ได้คิดอย่างที่ว่ามา เลยให้มา 2 chanel เป็นส่วนใหญ่ ส่วน Effect ก็มีบ้างไม่มีบ้าง

แล้วตู้แอมป์ที่ให้ครบทุกอย่างเป็นอย่างไร

1-ควรมี 2 Chanel สำหรับเสียงคลีนธรรมดา กับ เสียงแตก Overdrive-Distortion
2-มีปุ่มปรับ Tone ทุ้ม กลาง แหลม ทั้ง 2 Chane
3-มี Master Volume ให้สำหรับบาล้านซ์เสียงทั้ง 2 Chanel
4-มี Effect ให้เพียงพอกับการเล่นทั่วไป คือ Reverb - Delay - Chorus
อื่นๆ ของแถม คือ ช่อง CD IN ,ช่องเสียบหูฟัง, ช่อง Line out ,มีช่อง Loop Effect Send-return, Speaker out สำหรับต่อลำโพงเพิ่ม เพื่อให้ดังขึ้น        

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mxmsound.com 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่

บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: Two-Rock Amplification

 

ด้วยความคิดสร้างสรรค์อันไม่สิ้นสุด บวกกับแรงปรารถนาแห่งการรังสรรค์อุปกรณ์เครื่องเสียงเพื่อแสดงออกถึงจิต วิญญาณแห่งช่างฝีมือ ที่ทุ่มเทเวลาให้กับการคิดค้น ตู้แอมป์ที่ให้เสียงดีเลิศที่สุด เพื่อสะท้อนถึงความเป็นสุดยอดของงานศิลปะแห่งการให้เสียง Two Rock ผลงานสุดมหัศจรรย์ที่ชูอรรถรสทางเสียง ทุกชิ้นส่วนล้วนเรียงร้อยด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ด้วยใส่ใจในทุกรายละเอียด ส่งให้ Two Rock เป็นนวัตกรรมชิ้นเอกทางดนตรีอย่างเต็มภาคภูมิ
K&M Analog Designs
     บริษัท K & M Analog Designs, LLC นั้นได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดย มีชื่อเสียงขึ้นมาจาก Two-Rock Amps ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นตู้แอมป์คู่ใจของศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ  John Mayer ,......,.,.,.,.,.,.,       K & M Analog Designs  นั้นก่อตั้งขึ้นโดย  Bill Krinard และ Joe Mloganoski โดยทั้งคู่นั้นต่างมีประวัติทางด้านดนตรี และ อุปกรณ์เครื่องเสียงมาอย่างยาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้ท้งคู่ร่วมมือกันก่อตั้งบริษัทก็คือ ความต้องการที่จะสร้างตู้แอมป์กีตาร์ที่ให้เสียงที่ดีที่สุด โดยเริ่มต้นนั้นทั้งคู่ได้ออกตระเวณหา หลอดตู้แอมป์ ที่มีชื่อเสียงแทบจะทุกยี่ห้อ เพื่อฟังและศึกษาจุดเด่นจุดด้อย เพื่อนำมาพัฒนาให้สมบูรณ์แบบนั้นจึงเป็นที่มาของ ซาวด์ กีตาร์ของ Two-Rock Amps 
      Joe Mloganoski  นั้นหลงไหลในเสน่ห์ของเสียงกีตาร์ตั้งแต่วัยเด็ก เมื่ออายุ 18 ปี  เขาใช้เวลาว่างจากการทำงานเพื่อเล่นดนตรีอาชีพในละแวกบ้านทุกวัน  เมื่อฝีมือมีมากขึ้นเขาจึงเริ่มแสวงหาโทนเสียงกีตาร์ที่เขาต้องการโดยเริ่ม จากการเล่นดนตรีที่ย่านดนตรีใน Boston ซึ่งเขาหวังว่าจะได้เจอตู้แอมป์ที่มีโทนเสียงที่เขาต้องการ เขาใช้เวลาอย่างมากเพื่อตามหาโทนเสียงที่ต้องการ ระหว่างนั้นเขาได้เปิดกิจการซ่อมเครื่องไฟฟ้่าโดยระยะเวลา กว่า13 ปีที่เขาทำงานซ่อมเครื่องไฟฟ้านั้นไม่ได้ทำให้เขาลืมความฝันที่ต้องการจะแสวงหาโทนเสียงกีตาร์ที่ดีที่สุดเลย นั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เขาได้มาเจอและร่วมงานกับ Bill

ที่มา theguitaravenue 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่

บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ตู้แอมป์: เทคนิคและเคล็ดลับในการตั้งวงดนตรี

การเป็นนักดนตรีไม่ยากถ้าขยันเรียนรู้และฝึกซ้อม แต่การที่จะไปเล่นแจมกับผู้อื่นหรือตั้งวง ก็ยากมาก เพราะต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมร่วมกัน ยิ่งในวงมีสมาชิกหลายคน ก็ยิ่งต้องใช้เวลาในการปรับตัว ทำความเข้าใจ ให้เป็นหนึ่งเดียว ต้องอาศัยการฝึกซ้อมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ถึงเวลาต่างคนต่างเล่น นี่เป็นเทคนิคหรือเคล็ดลับในการที่เราจะทำวงดนตรีขึ้นมาสักวงต้องเรียนรู้ ระบบในการเล่น สิ่งเหล่านี้เกิดจากประสบการณ์ของข้าพเจ้าที่มีโอกาสเล่นวงดนตรีมานานกว่า 15 ปี และพร้อมที่จะแบ่งปันให้กับท่านทุกคนได้เรียนรู้
     1. วงดนตรีมักจะมีผู้เล่นเครื่องดนตรีหลักๆ คือ กลองชุด,กีตาร์เบสส์,กีตาร์คอร์ด,กีตาร์โซโล่,คีย์บอร์ด เรียกว่า “วงคอมโบ” หรือปัจจุบันมักเรียกว่า “วงสตริงส์” บางวงอาจมีผู้เล่นเครื่องดนตรีมากกว่านี้ เช่น ไวโอลิน,แซกโซโฟน,ทรัมเปต,เครื่องเคาะจังวะ หรือ เพอร์คัซซัน หรืออื่นๆ ตามแต่ที่วงของเราจะเล่นในแนวไหน และใช้เครื่องดนตรีอะไรมาประกอบ
     2. ผู้เล่นกีตาร์หรือเบสส์มักจะใช้อุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ต่อพ่วง เพื่อให้เสียงแปลกไปจากเสียงเดิมๆ เรียกว่า “เอฟเฟค” เอฟเฟคมีหลายแบบ หลายเสียง ตามแต่เราจะเลือกที่จะนำมาใช้ เช่น โอเวอร์ไดร์ฟ,ดิสทอร์ชัน,คอรัส,วาว วาว,คอมเพซเซอร์,ซัสเทน หรืออีควอไลเซอร์ เอฟเฟคจะมีทั้งแบบเสียงเดี่ยว และเสียงรวม มีแบบดิจิตัลที่สามารถผสมเสียงและแต่งเสียงตามใจชอบได้ เอฟเฟคมีราคาตั้งแต่พันกว่าบาทขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น
    3. ตู้แอมป์สำหรับเครื่องดนตรีควรแยกเฉพาะ เช่น ของกีตาร์ ก็เป็นตู้แอมป์กีตาร์ ของเบสส์ก็เป็นตู้แอมป์เบสส์ ของคีย์บอร์ดก็ต้องเป็นของคีย์บอร์ด ไม่ควรนำมาใช้เรื่อยไป เพราะความแตกต่างของสัญญาณ Input ของเครื่องดนตรีมีความแตกต่างกัน เช่น ถ้าเอาตู้แอมป์เบสส์มาเล่นกับคีย์บอร์ด จะทำให้เสียงคีย์บอร์ดออกมาในโทนเสียง Bass ไม่สดใส หรือเอาตู้แอมป์กีตาร์มาเล่นเบสส์ จะทำให้ตู้แอมป์นั้นพังได้ เพราะสัญญาณ Input เบสส์ จะเป็นเสียงต่ำ ลำโพงก็มีขนาดเล็กกว่า อาจทำให้ลำโพงขาดได้ เป็นต้น
     4. แผงหน้าปัดตู้แอมป์ หรือ เครื่องขยายเสียง จะมีตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งเราจะต้องเข้าใจ สามารถต่อสายหรือปรับแต่งได้ถูก เพราะถ้าต่อผิดอาจจะทำให้ตู้แอมป์ช็อต หรือพังได้ ซึ่งมีความหมายดังนี้

• Input = คือสัญญาณที่เข้ามายังตู้แอมป์ เช่น จากเทป,จากเครื่องซีดี,วิทยุ จากปรีแอมป์ (Pre Amp) หรืออีควอไลเซอร์ เป็นต้น ซึ่งสัญญาณจะต้องเป็นเพียงสัญญาณเสียงเท่านั้น

• Aux = คือสัญญาณที่ต่อเข้า เหมือน Input แต่จะเป็นสัญญาณเสียงจาก เทป หรือ เครื่องเล่นซีดี เป็นต้น

• Mag = จะเป็นช่องต่อสัญญาณที่มีการขยายวงจรค่อนข้างสูง ใช้กับเครื่องเล่นแผ่นเสียง เราไม่สามรถต่อสัญญาณเสียงจากเทป หรือเครื่องเล่นซีดีเข้าช่องนี้ได้ เพราะสัญญาณจะถูกย้ายให้แรงมาก จนเสียงที่ออกมาแตกพร่า

• Output = คือสัญญาณออก เช่น Output ของปรีแอมป์จะต่อเข้า Input ของตู้แอมป์ เป็นต้น

• SP. หรือ SPK หรือ Speaker = คือจุดต่อสายออกไปยังลำโพง บางเครื่องจะมีการต่อไปยังลำโพงหลายแบบ เช่น 8 โอห์ม คือต่อลำโพงที่มีอิมพิแดนซ์ 8 โอห์ม หรือ 4 โอห์ม หรือ 16 โอห์ม (ลำโพงฮอร์น)

• Vollume = คือปุ่มปรับเร่ง-ลดเสียง

• Bass = คือปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียงเบสส์ หรือ โทนเสียงต่ำ

• Treble = คือปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียงแหลม

• Balance = คือปุ่มปรับแยกความสมดุลย์ซ้าย-ขวา ในกรณีที่เป็นแอมป์ระบบสเตอริโอ Sterio

• Middle หรือ Mid = คือปุ่มปรับเสียงกลาง

• Hi = คือช่องต่อสัญญาณเข้าให้เสียงค่อนข้างใด หรือแหลมจากปกติ (ส่วนใหญ่พบที่แอมป์กีตาร์หรือเบสส์)

• Low = คือช่องต่อสัญญาณเข้าให้เสียงต่ำ หรือกรองเสียงแหลม ตรงกันข้ามกับ Hi

• SW. หรือ Power On-Off = เป็นสวิชท์เปิด-ปิดเครื่อง On คือเปิด Off คือ ปิด

• Pre out = คือจุดที่จะต้องสัญญาณปรีแอมป์ออกไปยังเครื่องขยายเสียง

• Pre in = คือจุดที่ต่อสัญญาณเข้า เหมือนกับ Input หรือ Aux

• LED = คือหลอดไฟที่แสดงให้เห็นว่ามีกระแสไฟเข้ามายังเครื่อง หรือทำงาน

• VU. = คือหลอดไฟ LED หรือ เข็มมิเตอร์ที่แสดงระดับของสัญญาณ

• Echo = คือจุดต่อหรือปุ่มปรับเสียงให้ก้อง สะท้อน (ส่วนใหญ่จะใช้ต่อกับไมโครโฟน)

• Mic = ย่อมาจาก Microphone ก็คือไมโครโฟนที่ใช้สำหรับพูด ที่แอมป์จะมีรูแจ๊คที่ต่อไมค์ มักจะพิมพ์ว่า MIC

• Boost = คือปุ่มปรับระดับสัญญาณให้แรงขึ้น หรือเพิ่มขึ้น

• Cut = คือปุ่มปรับระดับสัญญาณให้ลดลง หรือตัดสัญญาณออกไป

• Level = คือปุ่มปรับระดับสัญญาณ.ให้เท่ากัน หรือมาตรฐาน

• AC. = คือกระแสไฟฟ้าสลับ หรือไฟบ้าน เช่น AC. 220 V. หรือช่องต่อสายไฟฟ้าไปยังไฟฟ้าบ้าน

• DC. = คือกระแสไฟฟ้าที่มีขั้วบวก ขั้วลบ เช่นกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี เช่น DC. 12 V. หรือช่องต่อสายไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี หรือ อะแดปเตอร์ (หม้อแปลง)

• Max. = คือระดับสูงสุด หรือเต็มที่ (maximum)

• Min. = คือระดับต่ำสุด หรือน้อยสุด (Min กับ Max มักจะเจอตรงปุ่มวอลลุ่มปรับระดับเสียง) (minimum)

• Phones = คือช่องต่อไปยังหูฟัง หรือออกไปยังแอมป์ที่ Aux

• AV. In = คือช่องต่อสัญญาณภาพและเสียงเข้ามา (ย่อมาจาก Audio = สัญญาณเสียง Video = สัญญาณภาพ)

• AV. Out = คือช่องต่อสัญญาณภาพและเสียงออกไปยังเครื่องรับ (เช่น จุดต่อ AV. Out จากเครื่องเล่น VCD ไปยัง

• AV. In ของโทรทัศน์เพื่อให้มีภาพและเสียง)

• Line in / Line out = คือจุดต่อเข้าและต่อออก คล้ายๆ Input หรือ Output หรือ AV. In / AV. Out ในกรณีของแอมป์กีตาร์หรือเบสส์ มักจะมีช่อง Line Out ก็คือจะต่อสายแจ๊คจากแอมป์นี้เข้าไปยังเครื่องมิกเซอร์ต่อไป

• Mixer = คือเครื่องผสมเสียงทั้งหมด หรือรวมเสียงของเครื่องเสียงเครื่องดนตรีที่เล่น ไปยังเครื่องขยายเพื่อออกไปยังลำโพงจุดเดียวกัน (ส่วนใหญ่มักจะใช้กับงานแสดงบนเวที หรือกลางแจ้ง) เครื่องนี้จะต้องมีผู้ควบคุมดูแลที่มีความรู้ ความสามารถเรื่องเครื่องเสียง เพื่อฟังให้เครื่องดนตรีทุกชิ้น หรือเสียงร้อง ออกมาให้สมดุลย์ที่สุด

• Ch. หรือ Chanel = คือช่องต่อสัญญาณเข้า เช่น CH 1 ก็คือช่องที่ 1 (ส่วนใหญ่จะมีในแอมป์ที่มี Mixer มากๆ) เป็นต้น..

  สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

  ติดต่อได้ที่

  บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

  เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

  ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
  โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
  เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
  แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

  อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th